ตำนานแดรกคูล่ากับโลงศพของเขา

ตำนานแดรกคูล่ากับโลงศพของเขา

ตำนานแดรกคูล่ากับโลงศพของเขา แต่ไหนแต่ไรมาผู้คนทั่วโลกย่อมมีความเชื่อ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นภูต ผี ปีศาจ ต่าง ๆ แอดมินเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของแดรกคูล่ามาแล้วไม่มากก็น้อย และผู้อ่านคงเคยเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมแดรกคูล่าต้องนอนในโลงศพในตอนกลางคืนด้วย ซึ่งในวันนี้แอดมินจะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของท่านเคานต์แดรกคูล่า ผู้เป็นราชาแห่งแวมไพร์ทั้งหลายให้ฟังกันค่ะ

ชื่อของเคานต์แดรกคูล่าปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1897 ในนวนิยายของ บราม สโตกเกอร์ โดยมีความเชื่อว่าแรงบันดาลใจของตัวละครแดรกคูล่านั้น มาจากตำนานความโหดเหี้ยมของกษัตริย์ วลาด ธีปส์ แดร็กคิวล่า (Vlad Tepes Dracula) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วลาด เดอะ อิมพาเลอร์” (วลาดจอมเสียบ) กษัตริย์ชาวโรมาเนียในศตวรรษที่ 15 ผู้ที่มีความรักในการฆ่ามนุษย์ด้วยการแทงด้วยหอกที่แหลมคม ซึ่งเป็นการตายที่ทรมานเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่ถูกแทงจะไม่ตายในทันที แต่จะถูกปล่อยให้เลือดไหลออกมาจากร่างกายจนตายไปอย่างช้า ๆ ซึ่งหนึ่งในพลังที่โดดเด่นของแดรกคูล่า ก็คือความสามารถในการเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นแวมไพร์โดยการกัดเข้าไปที่ต้นคอของคน

ในนวนิยายของ บราม สโตกเกอร์ เคานต์แดรกคูล่าเป็นราชาแห่งแวมไพร์ที่มีพลังแห่งความไม่ตาย อาศัยอยู่ในปราสาทที่ผุพังในเทือกเขา  Carpathian ที่ประเทศทรานซิลวาเนีย ซึ่งปัจจุบันนี้มีการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นขึ้น ณ ปราสาทหลังนี้ โดยการท้าทายให้คนกล้ามานอนในโลงศพที่จัดเตรียมไว้เป็นเวลา 1 คืน ในคืนของวันที่ 31 ตุลาคมหรือในวันฮาโลวีนนั้นเอง ซึ่งก็มีพี่น้อง 2 คนที่ไปนอนในโลงศพที่ปราสาทแดรกคูล่าในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมาด้วยค่ะ

โดยเนื้อเรื่องย่อของนิยายแดรกคูล่านั้น เริ่มจากการที่ โจนาธาน ฮากเกอร์ได้เดินทางจากลอนดอนไปทราซิลเวเนีย เพื่อไปทำธุรกิจกับเคานต์แดรกคูล่า ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของปีศาจดูดเลือดนี้ โจนาธานจึงถูกแดรกคูล่าขังไว้ในปราสาท ในขณะที่เคานต์แดรกคูล่าเดินทางไปล่าเหยื่อที่ลอนดอน โดยมีการขนโลงศพ 50 ใบไปด้วยในการเดินทางครั้งนี้ และผู้แต่งก็ได้มอบพลังเหนือมนุษย์ของแดรกคูล่าที่มากมายให้กับท่านผู้นี้ จนมนุษย์ธรรมดาแทบจะไม่มีโอกาสที่จะกำจัดทิ้งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับแรงของผู้ชาย 20 คน หรือภูมิคุ้มกันจากการโจมตีธรรมดา ๆ ที่สำคัญท่านผู้นี้สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ และมีความว่องไวเหนือมนุษย์ทั่วไป อีกทั้งแดรกคูล่ายังสามารถสะกดจิตใจคนได้ และสื่อสารกับผู้อื่นด้วยจิตใจได้ ซึ่งแวน เฮลซิง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคประหลาด ก็ได้ใช้จุดนี้เพื่อตามล่าหาที่อยู่ของเคานต์แดรกคูลาและสังหารแดรกคูล่าได้สำเร็จ

แล้วทำไมเราถึงมีความเชื่อว่าแดรกคูล่าถึงนอนในโลงศพ

เหตุผลที่อธิบายว่าทำไมแดรกคูล่าถึงนอนในโลงศพนั้นไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด แต่มีเหตุผลหนึ่งที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับตำนานแดรกคูล่าที่นอนในโลงศพ นั่นก็คือ ในสมัยก่อนความเชี่ยวชาญทางการแพทย์นั้นยังไม่ได้เจริญก้าวหน้าเหมือนกับปัจจุบันนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเจ็บป่วยจะถูกเข้าใจผิดว่าเสียชีวิต และส่งผลให้ถูกฝังทั้งเป็นในโลงศพโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจะเกิดเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จนผู้คนเกิดความหวาดกลัว และทำการค้นสุสานเพื่อมองหาต้นต่อของการเกิดเสียง และได้พบร่างของผู้ที่ถูกใส่ไว้ในโลงศพ ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเสียชีวิตแล้วถูกฝังไว้ และตอนนี้ได้เสียชีวิตลงไปแล้วจริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนแปลกประหลาดใจ นั่นก็คือ การที่ร่างกายของศพที่อยู่ในโลงศพนั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับมือและใบหน้าที่เปื้อนเลือด ซึ่งต่างจากท่าทางสงบนิ่งก่อนที่จะปิดโลงศพแล้วนำไปฝังไว้ คนจึงพากันเข้าใจว่าพวกเขาได้เจอกับสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่าแดรกคูล่า ซึ่งผู้คนก็ได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่า แดรกคูล่านั้นเป็นซากศพที่ยังไม่ตายและจะนอนในโลงศพในเวลากลางวัน และเมื่อพระอาทิตย์ตกดินแดรกคูล่าก็จะออกจากโลงศพของเขา เพื่อไปหากิน

อย่างไรก็ตาม โลงศพมีส่วนเกี่ยวข้องเสมอมากับเรื่องราวของแดรกคูล่า จากการที่โลงศพเป็นที่นอนของท่านแดรกคูล่า เพราะในตอนกลางวันแดรกคูล่าเปรียบเสมือนคนตาย และตอนกลางคืนก็ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ จึงไม่แปลกที่แดรกคูล่าจะนอนในโลงศพ และนี่ก็คือเรื่องราวตำนานของท่านเคานต์แดรกคูล่ากับโลงศพของเขาค่ะ

หากท่านใดเกิดข้อสงสัยหรือต้องการความรู้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการใช้บริการเราเกี่ยวกับเรื่องหลังความตาย Sasi Coffin ยินดีให้บริการ อาทิ โลงศพ หีบศพ ดอกไม้หน้าโลงศพ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 087-620-1835 ตลอด 24 ชม.