Service

หีบศพหิน  หีบศพหิน โลกเราได้ถูกสร้างขึ้นมาหลายร้อยพันปีก่อน สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่จะต้องมีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ ดังนั้นเมื่อมนุษย์มีการวิวัฒนาการ การใช้ชีวิตก็ย่อมมีการปรับเปลี่ยนตามเรื่อย ๆ เราจะเห็นได้ว่า การขุดค้นพบวัตถุโบราณในแต่ละครั้ง จะบ่งบอกถึงการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคนั้น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวันนี้ sasi coffin เราจะมาพูดถึง หีบศพ…

การทำบุญครบรอบ 100 วัน การทำบุญครบรอบ 100 วัน นับเป็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมหลังความตาย ซึ่งการทำบุญ 100 วันนี้จะถือเป็นพิธีกรรมสุดท้าย นับหลังจากการลอยอังคาร การทำบุญครบ 100 วัน เป็นการทำบุญถึงการจากไป เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ วันนี้ทาง Suriya Funeral จะมาอธิบายขั้นตอนในการปฏิบัติดังนี้ค่ะ…

นกแสก ตัวแทนแห่งความตายจริงหรือ? เมื่อเราพูดถึงความเชื่อที่มีต่อนกแสกนั้น แน่นอนว่าหนึ่งความคิดที่ผุดขึ้นมาทันทีคือ “นกผี” คนไทยอยู่กับความเชื่อนี้มาอย่างยาวนาน ว่านกแสกเป็นตัวแทนแห่งดวงวิญญาณ นกแสกเป็นพาหนะของยมทูตเมื่อมีนกแสกมาร้องที่บ้านหรือบินวนบริเวณแถวนั้น จะทำให้มีป่วยหรือคนตายในบ้านนั้นหรือหมู่บ้านนั้นนั่นเอง โดยวันนี้ Sasi Coffin จะนำเรื่องราวของนกแสกมาเล่าสู่กันฟังค่ะ โดยความเชื่อเรื่องของนกแสก ในแต่ละภูมิภาคก็จะแตกต่างกันไป ในขณะที่ประเทศไทยมองว่านกแสกเป็นนกที่เป็นตัวแทนของเรื่องอัปมงคล แต่ในทางกลับกันในประเทศอินเดียกลับมองว่านกแสกเป็นนกของพระลักษมีผู้เป็นเทวีแห่งโชคทรัพย์และความเจริญงอกงามทางการเกษตร โดยลักษณะเด่นของนกแสกคือ ใบหน้าเป็นรูปหัวใจสีขาว ลักษณะคล้ายลิง…

การแจ้งตายทำอย่างไร การแจ้งตายทำอย่างไร มนุษย์เราทุกคนนั้นจะต้องผ่านช่วงเวลาการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพราะมันเป็นสัจธรรมของชีวิต ความไม่แน่นอน การตายก็เช่นกัน การตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น  เพราะถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้ ดังนั้นเมื่อเกิดการตายอย่างแรกที่จะเกิดขึ้นคือความตกใจ และขาดสติ ความโศกเศร้า จนไม่สามารถเรียบเรียงเหตุการณ์หรือไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรต่อจากนี้ดี วันนี้เราจะบอกวิธีการแจ้งตาย ขั้นตอนแรกหลังจากเสียชีวิต…

การบวชหน้าไฟ การบวชหน้าไฟ เมื่อพูดถึงการบวชหน้าไฟนั้นจะเป็นการบวชในงานศพ หลายท่านก็จะคุ้นหูกันดี เพราะการบวชหน้าไฟนี้ถือเป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว แต่การบวชหน้าไฟนั้นบวชเพื่ออะไร บวชเพื่อใครกันแน่ เป็นการบวชเพื่อคนตายหรือบวชเพื่อคนเป็นวันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันค่ะ ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า การบวชหน้าไฟ หรือบรรพชาสามเณรหน้าไฟนั้น หมายถึงอะไร ซึ่งได้มีพระท่านหนึ่งให้ความหมายไว้ว่า การบวชหน้าไฟเป็นการบวชของลูกหลานของผู้เสียชีวิต เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ลักษณะในการบวชส่วนมากจะเป็นการบวชสามเณรมากกว่าการบวชพระภิกษุ เพราะใช้ระยะเวลาไม่นานเพียง 1-2 วันเท่านั้น  และใช้เวลาในการเตรียมการบวชไม่มากนัก…

วัฒนธรรมแอฟริกันกับการเต้นแบกโลงศพ วัฒนธรรมแอฟริกันกับการเต้นแบกโลงศพ หลังจากที่มีคลิปได้เผยแพร่ เป็นที่โด่งดังกันมาในระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชาวผิวสีแต่งตัวด้วยชุดสุภาพเต้นแบกโลงศพ ประกอบกับเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน จนทำให้คลิปนี้เป็นที่พูดถึงกัน เมื่อเรามองว่าถ้ามีโลงศพก็ควรจะเป็นเรื่องที่โศกเศร้า แต่ในคลิปกลับดูมีความครื้นเครง ทำให้บ่งบอกให้เห็นได้ว่าพิธีกรรมในงานศพนั้น บรรยากาศภายในงานไม่จำเป็นต้องเศร้าเสมอไป ถ้าหากย้อนมองดูวัฒนธรรมทางประเทศไทย โดยส่วนมากเราจะจัดพิธีงานศพด้วยบรรยากาศที่โศกเศร้าอาลัย แต่ในบางครอบครัวที่ได้มีการสั่งเสียของผู้วายชนม์ ว่าต้องการให้งานศพมีความครื้นเครง สนุกสนาน จึงสั่งให้ทางญาติจัดงานศพที่มีดนตรีบรรเลง หรือมีการเล่นตลกนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจะมากล่าวถึงวัฒนธรรมต่างแดนจากทวีปแอฟริกา จากคลิปวีดีโอที่มีคนแบกโลงศพเต้นรำ…

ตำนานแดรกคูล่ากับโลงศพของเขา ตำนานแดรกคูล่ากับโลงศพของเขา แต่ไหนแต่ไรมาผู้คนทั่วโลกย่อมมีความเชื่อ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นภูต ผี ปีศาจ ต่าง ๆ แอดมินเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของแดรกคูล่ามาแล้วไม่มากก็น้อย และผู้อ่านคงเคยเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมแดรกคูล่าต้องนอนในโลงศพในตอนกลางคืนด้วย ซึ่งในวันนี้แอดมินจะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของท่านเคานต์แดรกคูล่า ผู้เป็นราชาแห่งแวมไพร์ทั้งหลายให้ฟังกันค่ะ ชาวคริสต์กับความเชื่อโลกหลังความตาย การจัดงานศพของศาสนาคริสต์ (คาทอลิก) ชื่อของเคานต์แดรกคูล่าปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1897…

การตายสมัยคนโย้ยโบราณ การตายสมัยคนโย้ยโบราณ  การตายนั้นไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งแต่ละวัฒนธรรม ยุคสมัยก็จะมีการจัดพิธีกรรมที่แตกต่างกันไป และเมื่อมีการตายในสมัยคนโย้ยโบราณนั้นเค้าก็จะทำการฝังหรือเผา ซึ่งชาวโย้ยก็มีววัฒนธรรมเป็นของตนเอง ในวันนี้แอดมินจะมาพูดถึงการตายของชาวไทโย้ยโบราณโดยถ้าหากเกิดการเจ็บป่วย มี  ไข้จนตายคนโย้ยโบราณก็จะทำการเผา ถ้าตายมีแฮงก็จะทำการฝัง แต่คนโย้ยในสมัยใหม่จะทำการเผาร่างทั้งหมด มากกว่าความตาย ความเชื่อของคนจีนในสมัยโบราณ จิตสุดท้ายหลังความตายไปที่ไหน4 เมื่อมีการเสียชีวิตแล้วนั้นคนโย้ยโบราณก็จะทำการอาบน้ำ ชำระร่างกายผู้เสียชีวิต อาบน้ำหวีผม แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดใหม่ คนโย้ยจะนิยมนำเงินใส่ไปในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงของผู้ตาย…

พิธีกรรมการฝังศพสมัยโบราณ พิธีกรรมการฝังศพสมัยโบราณ ก่อนที่เวลาจะเดินทางมาถึงในยุคปัจจุบันนี้ การใช้ชีวิตในปัจจุบันล้วนแล้วแต่เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดจากรุ่นต่อรุ่นตั้งแต่สมัยโบราณทั้งนั้น โดยวันนี้ที่เราจะมากล่าวถึงก็คือก่อนที่เราจะมีการนำร่างผู้เสียชีวิตใส่ไปในโลงศพแล้วทำการเผาแบบปัจจุบันนั้น คนสมัยโบราณได้จัดการกับร่างที่ไร้วิญญาณอย่างไร วันนี้เราจะไปทราบพร้อม ๆ กันค่ะ                 สมัยโบราณนั้นแน่นอนว่ายังไม่ได้มีการสร้างโลงศพอย่างในปัจจุบัน และยังคงไม่มีนวัตกรรมใด ๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมากนัก การใช้ชีวิตจึงเป็นเรื่องที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตโดยการนำสิ่งรอบข้างมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และนั้นเองเมื่อเสียชีวิตในสมัยโบราณจึงนำร่างผู้เสียชีวิตฝังไว้ในดิน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ…

ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น เมื่อเราได้ยินคำนี้แน่นอนว่ามันเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก คนพูดกล่าวถึงความตายนั่นเอง โดยคำเหล่านี้เราจะเห็นได้อยู่บ่อย ๆ ในงานศพ คำพูดนี้จะถูกเขียนไว้บนตาลปัตรที่ใช้บังหน้าของพระนั่นเอง  ในตาลปัตรทั้ง 4 ด้าม ถ้าถามถึงความหมายโดยทั่วไปหรือการที่เราอ่านแล้วตีความกันเอง ก็ให้ความหมายว่าความตาย หรือคนตายไปแล้วไม่สามารถกลับมาฟื้นคืนชีพได้…