ตายแล้ววิญญาณจะไปที่ไหน
ตายแล้ววิญญาณจะไปที่ไหน ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น เป็นคำที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นบทกลอนที่สะท้อนถึงความจริงว่า ทุกคนจะต้องอยู่บนสัจธรรมที่ว่า เกิด แก่ เจ็บ และตาย และแน่นอนว่าความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกหนีได้ ซึ่งไม่มีใครสามารถฟื้นจากความตายเพื่อมาเล่าสู่กันฟังว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร คำถามที่เราจะได้ยินกันบ่อยคือตายแล้วไปนรกหรือสวรรค์ ทำไมคนตายถึงไม่รู้ตัวใน 7 วัน วันนี้สุริยาหีบศพมีคำตอบมาให้ค่ะ
มนุษย์มีความเชื่อที่ว่าทำดีจะได้ดี ตายไปได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วจะได้ชั่ว ตายไปลงนรก โดยตอนมีชีวิตอยู่ก็แล้วแต่เจ้าตัวจะเลือกปฏิบัติตนอย่างไร แต่สุดท้ายทุกคนจะจบที่การตาย ก็คือการที่ร่างกายไม่สามารถบริการจิตววิญญาณต่อไปได้อีก แต่วิญญาณยังคงล่องลอยอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตาย จะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้น ไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ โดยมีความเชื่อที่ว่า
- ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
- ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
- ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน
เมื่อเสียชีวิตลงแล้วดวงวิญญาณก็จะหลุดออกจากร่าง แต่คงยังวนเวียนอยู่แถวนั้น เมื่อได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์ที่ชะตาถึงฆาตพาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญ ในขณะที่มีชีวิตอยู่ วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วหรือเรียกว่า อนันตริยกรรม มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพุทธเจ้าห้อเลือด
ทำไมคนตายถึงไม่รู้ตัวใน 7 วัน
หลังจากที่เสียชีวิตแล้วนั้นปกติแล้วคนตายจะยังไม่รู้ตัว ใน 7 วัน หลังจากนั้นเขาจึงจะรู้ตัวเอง วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณา ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังจัดงานศพ 49 วันกับชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นแต่บาปกับบุญเท่านั้น
เจ็ดวันรอบแรก วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็น ก็กระโจนเข้ากัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่าก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง หมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ 2 เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน วิญญาณบาปจะโดนทุบตี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น ส่วนวิญญาณดี เมื่อมาถึงด่านประตูผีจะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ 3 เมื่อวิญญาณผู้ตาย มาถึงยมโลกวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม มีชีวิตทำชั่วอะไรภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิดก็สายแล้ว วิญญาณดีเมื่อมาถึงจะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้อง
เจ็ดวันรอบที่ 4 เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ 5 วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลานคนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีกได้แต่เสียใจ
เจ็ดวันรอบที่ 6 เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชียมบาล จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญจะส่งไปยังนรกภูมิรับทุกข์อย่างน่าเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ 7 เมื่อวิญญาณผู้ตาย ไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าความเชื่อที่เราน่าจะยึดถือมากที่สุดก็คือความเชื่อที่ว่า เมื่อเราตายไปยังคงมีอีกโลกรอเราอยู่ มีนรก มีสวรรค์
ทางสุริยาหีบศพยินดีให้บริการเรื่องของความตาย อาทิ หีบศพ โลงศพ ดอกไม้หน้าหีบศพ จัดงานครั้งสุดให้จากไปอย่าสงบสุข พร้อมทั้งยังรับบริจาคหีบศพเป็นการสะสมอีกช่องทางและยังช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ หรือผู้ที่ไร้ญาติได้มีโลงศพเป็นบ้านหลังสุดท้ายก่อนที่จะไปยังโลกหน้า สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ www.suriyafuneral.com หรือโทร 02-950-0989 ตลอด 24 ชม.